เมื่อกำหนดค่าในหัวข้อต่างๆ แล้ว ก็สามารถปิดหน้าต่างไปได้เลย แต่หากต้องการให้ระบบตรวจสอบและลบไฟล์ขยะที่ไม่ต้องการ (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) ทันทีก็สามารถทำได้โดยคลิกปุ่ม "Clean now" แล้วรอให้ะบบทำงานสักพัก... สังเกตว่าจะมีออปชัน "Delete previous versions of Windows" ซึ่งเป็นไฟล์เก่าของวินโดว์สก่อนอัพเดต ซึ่งถ้าคุณอัพเดตแล้วใช้งานเป็นปกติ ก็ให้เลือกออปชันนี้ด้วยจะช่วยเรียกคืนพื้นที่กลับมาได้เป็นหลัก GB เลยทีเดียว
ปัญหาที่เราเจอตอนนี้คือ ไดร์ C เต็มค่ะ ทั้งที่ SSD เรามีความจุมากกว่า 200 GB และโปรแกรมที่เราใช้ หลักๆ มีแค่ไม่กี่ตัวส่วน เราแก้ปัญหาเบื้องต้นคือ เข้าไปลบไฟล์ขยะ ลบแอพที่ไม่ได้ใช้แล้ว ไดร์ C ก็ยังเต็มเหมือนเดิม ไม่ทราบว่ามีใครเคยเจอปัญหานี้ แล้วแก้ปัญหานี้ยังไงกันบ้างค่ะ แสดงความคิดเห็น
ขั้นแรกพิมพ์คำว่า 'Storage' ในช่อง Search แล้วคลิกเลือกรายการ 'Storage settings' 2. หน้าต่าง Settings จะปรากฏขึ้น ให้คลิกคลิกที่หัวข้อ "Configure Storage Sense or run it now" เพื่อเข้าไปตั้งค่าการกำจัดไฟล์ขยะโดยอัตโนมัติเพิ่มเติม 3. คลิกเปิดการทำงานใต้หัวข้อ Storage Sense เป็น 'On' เพื่อเปิดใช้ฟังก์ชันอัตโนมัติ จากนั้นเลือกออปชันด้านล่างว่าจะให้ระบบทำงานในกรณีใด โดยจะมีให้เลือกคือ Every day (ทุกวัน), Every week (ทุกสัปดาห์), Every month (ทุกเดือน) และ During low free disk space (เมื่อพื้นที่ในไดรฟ์ใกล้เต็ม) ซึ่งออปชั่นนี้จะถูกกำหนดไว้เป็นค่ามาตรฐาน 4. ในหัวข้อ Temporary Files นั้นคุณสามารถกำหนดแยกต่างหากได้ว่าต้องการให้ระบบลบไฟล์ชั่วคราวเมื่อใด มีความถี่ให้เลือกคือ ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน และทุกสองเดือน 5. ถัดลงมาคือการกำหนดให้ลบไฟล์ในโฟลเดอร์ Downloads ซึ่งถ้าคุณใช้เครื่องคนเดียว แนะนำให้เลือกเป็น Never เพื่อไม่ให้ระบบลบไฟล์สำคัญหรือไฟล์ที่เราอาจจำเป็นต้องใช้ในอนาคต 6. ในหัวข้อ Locally available cloud content นั้นจะมีไว้สำหรับผู้ใช้ที่มีการซิงโครไนซ์ไฟล์กับระบบคลาวด์ OneDrive ซึ่งจะทำการลบเฉพาะไฟล์ในไดรฟ์ที่ถูกแบ็กอัพไว้บนระบบคลาวด์แล้ว ยกเว้นเฉพาะไฟล์ที่กำหนดให้เป็น "Always keep on this device" ที่เราต้องการให้สามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลา 7.