เมื่อ 25 ปีที่แล้ว บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของ โยฮัน ครัฟฟ์ กุนซือชาวดัตช์ ถือเป็นทีมชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา และมีนักเตะชื่อดังหลายต่อหลายคน โดยในกลางปีนั้น ''เจ้าบุญทุ่ม'' คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยการเฉือนชนะ ซามพ์โดเรีย 1-0 ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม (เก่า) วันนี้ "สปอร์ตคีด้า" เว็บไซต์กีฬาของประเทศอินเดีย ได้ให้ข้อมูลว่า 11 นักเตะ บาร์เซโลน่า ในชุดนั้นทำอะไรกันอยู่บ้างในตอนนี้ 1. อันโดนี่ ซูบิซาร์เรต้า (ผู้รักษาประตู/ วัย 55 ปี/ เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1986-1994) ซูบิซาร์เรต้า ถือเป็นตำนานของ บาร์เซโลน่า อย่างแท้จริง หลังจากที่เป็นกัปตันทีม และเคยเป็นผู้รักษาประตูที่ลงสนามให้ทีมเก่ามากที่สุด ก่อนที่จะถูก บิคตอร์ บัลเดส โกลลูกหม้อรุ่นน้อง ทำลายสถิติลงเมื่อฤดูกาล 2011-2002 ก่อนจะย้ายไปเล่นให้ บาเลนเซีย และแขวนสตั๊ดไปในปี 1998 แล้วอีก 12 ปีต่อมา เขาก็ได้มารับงานเป็นผู้อำนวยการกีฬาของ "เจ้าบุญทุ่ม" ถึง 5 ปี ก่อนจะโดน โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสร ปลดจากตำแหน่งในที่สุด โดยในเวลานี้ ซูบิซาร์เรต้า กำลังเป็นผอ. กีฬาให้ โอลิมปีก มาร์กเซย อยู่ 2.
โฆเซ่ มารี บาเกโร่ (กองกลางตัวรุก/ วัย 54 ปี/ เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1988-1996) บาเกโร่ ชาวสแปนิช เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งกับ เรอัล โซเซียดาด ก่อนจะโยกไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ชุดดรีมทีม และเป็นกำลังสำคัญช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ถึง 18 ถ้วย และยิงประตูตลอดอาชีพการค้าแข้งกับทุกทีมไปมากถึง 139 ประตู ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับ วาราคุซ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในงานกุนซือกับทีมในสเปน, โปแลนด์ และแถวอเมริกาใต้ แล้วในปี 2015 จะรับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการชั่วคราว แต่ในตอนนี้ยังคงไม่มีใครรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ 9. ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป (กองกลางตัวรุก/ วัย 52 ปี/ เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1989-1994) เลาดรู๊ป เริ่มต้นเส้นทางอาชีพการค้าแข้งกับ 2 ทีมในเดนมาร์ก เคบี และ บรอนด์บี้ ก่อนจะย้ายไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า แล้วกลายเป็นกำลังสำคัญสุดของดรีมทีมของ โยฮัน ครัฟฟ์ และได้รับการยกย่องเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของแดนโคนม และหลังจากที่แขวนสตั๊ดไป เขาก็ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการเป็นผู้จัดการทีมอย่าง บรอนด์บี้, เคตาเฟ่ และ สวอนซี ซิตี้ ที่เขาได้สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการคว้าแชมป์ ลีก คัพ ในปี 2013 แต่ในตอนนี้ยังคงไม่มีใครรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ 10.
จูลิโอ ซาลินาส (กองหน้า/ วัย 54 ปี/ เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1988-1994) อดีตดาวยิงชาวสแปนิช วัย 54 ปี ที่เริ่มต้นการค้าแข้งกับ แอธเลติก บิลเบา นั้น เล่นให้ บาร์เซโลน่า นานถึง 6 ปี และเคยเล่นให้ทีมชาติถึง 56 นัด พร้อมสัมผัสการแข่งขันฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 3 ครั้ง และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2 ครั้ง แล้วเลิกเล่นฟุตบอลกับ อลาเบส และได้เป็นนักวิจารณ์ฟุตบอล 2 แห่งอย่าง อาร์ทีวีอี และ ลาเซ็ตต้า 11. ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (กองหน้า/ วัย 51 ปี/ เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1996-1998) สตอยช์คอฟ เริ่มพัฒนาฝีเท้าของตัวเองกับ ซีเอสเคเอ โซเฟีย มากถึง 6 ปี ก่อนย้ายซบสโมสรใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า แล้วระเบิดฟอร์มยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ จนในปี 1994 เขาก็คว้ารางวัล บัลลงดอร์ พร้อมได้ดาวซัลโว และอันดับ 3 ในศึกฟุตบอลโลก ปี 1994 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ ขณะที่การเป็นกุนซือนั้น เคยเป็นโค้ช, เซลต้า บีโก้, มาเมโลดิ ซันดาวน์ส และ ซีเอสเคเอ โซเฟีย แต่ในตอนนี้ยังคงไม่มีใครรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ กันโทน่า อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร Add friend ที่ @Siamsport
ยูเซบิโอ ซาคริสตาน (กองกลาง/ วัย 53 ปี/ เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1988-1995) ซาคริสตาน เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ถึง 7 ฤดูกาล และเป็นหนึ่งในแข้งคนสำคัญในทีมภายใต้การคุมทัพของ ครัฟฟ์ จนพาทีมคว้าแชมป์ต่างๆ เกิน 10 ถ้วย และในเกม ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1992 ที่ทีมชนะ "ลาซามพ์" เจ้าตัวเล่นตำแหน่งปีกขวา ก่อนจะย้ายไปแขวนเกือกกับ เรอัล บายาโดลิด แล้วไปรับงานคุม เซลต้า บีโก้, บาร์เซโลน่า เบ และ เรอัล โซเซียดาด ที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อปี 2015 6. ฮวน คาร์รอส โรดิเกรซ (แบ็กซ้าย/ วัย 52 ปี/ เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1991-1994) โรดิเกรซ เคยโม่แข้งให้ทีมสเปนอย่างทีมอย่าง เรอัล บายาโดลิด, แอตเลติโก มารดิด และ บาร์เซโลน่า ที่ได้แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ มาครั้งเดียวในปี 1992 ขณะที่ในบทบาทนายใหญ่นั้น เขาไปคุมทีมเล็กๆ อย่าง คาสตีลและเลออน ในสเปน รวมถึงบรรดาสโมสรในกระทิงดุที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ ยูฟ่า หรือ ฟีฟ่า ก่อนที่สุดท้ายจะมารับงานเป็นผู้อำนวยการของ บายาโดลิด ในปี 2008 7.
ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตลอดทุกยุคที่ผ่านมา มีนักฟุตบอลมากหน้าหลายตาย้ายมาโชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลได้รับชม แต่ไม่น่าเชื่อว่า บาร์เซโลน่า กลายมาเป็น 1 ในสโมสรที่อดีตนักเตะของพวกเขาย้ายมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมากที่สุด แม้แต่ปัจจุบันเองก็ตาม อดีตผู้เล่น บาร์เซโลน่า อย่าง ลูคัส ดีญ, อังเดร โกเมส และเยอร์รี มิน่า ก็เล่นอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ขณะที่ เดนิส ซัวเรส และเฮคเตอร์ เบเยริน ก็ค้าแข้งอยู่กับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล และนี่คือรายชื่อของอดีตนักเตะ "เจ้าบุญทุ่ม" ที่ตัดสินใจโยกมาค้าแข้งในอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่า หลายๆคนแฟนบอลคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี และบางรายกลายเป็นตำนานของสโมสรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 1. เปเป้ เรน่า (ลิเวอร์พูล) นายทวารชาวสเปน เริ่มอาชีพของเขากับ บาร์เซโลนา ก่อนที่จะย้ายมาเฝ้าเสากับ ลิเวอร์พูล ในปี 2005 และลงสนามให้ทัพ "หงส์แดง" ไป 285 นัด ตลอด 9 ปี ในถิ่นแอนฟิลด์ เรน่า เคยได้รับรางวัลพรีเมียร์ลีกโกลเด้นโกลฟ์ หรือถุงมือทองคำ ใน 3 ฤดูกาลแรกของเขากับ ลิเวอร์พูล และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีในฤดูกาล 2009/10 อีกด้วย โดยอดีตมือกาว "เจ้าบุญทุ่ม" ถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดตลอดกาลของ "หงส์แดง" เรียบร้อยแล้ว 2.
เดโก (เชลซี) อดีตจอมทัพทีมชาติโปรตุเกส ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาเล่นกับ เชลซี ในปี 2008 อย่างไรก็ตาม เขาไม่ประสบความสำเร็จนักกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" แม้จะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับ เชลซี มากเท่าที่ควร แต่ เดโก ก็อยู่ในทีมชุดที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ มาแล้ว 6. เชส ฟาเบรกัส (อาร์เซน่อล, เชลซี) ฟาเบรกัส ย้ายออกจากถิ่นคัมป์ นู มาอยู่กับ อาร์เซน่อล ตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่ง และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดแรกของ "ไอ้ปืนใหญ่" ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น ภายใต้การมอบโอกาสของ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส กองกลางทีมชาติสเปน ย้ายจาก อาร์เซน่อล กลับไปเล่นกับ บาร์โซโล่นา อีกครั้งในปี 2011 ก่อนจะย้ายมา เชลซี ในปี 2014 และลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ไปมากถึง 500 นัด 7. มิเกล อาร์เตต้า (เอฟเวอร์ตัน, อาร์เซน่อล) แม้ว่า อาร์เตต้า จะไม่เคยปรากฏตัวกับทีมชุดแรกของ บาร์เซโลน่า แต่เขาก็เริ่มต้นกับ "เจ้าบุญทุ่ม" ในฐานะนักเตะเยาวชน ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในลีกสก็อตแลนด์ เมื่อปี 2002 อย่างไรก็ตาม แฟนบอลส่วนใหญ่จำได้ดีที่สุดสำหรับเวลาของ มิดฟิลด์ชาวสเปน ที่ค้าแข้งกับ เอฟเวอร์ตัน เขาลงเล่นให้กับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" 199 เกม จากนั้นย้ายไปร่วมทีม อาร์เซน่อล และได้เป็นกัปตัน "ไอ้ปืนใหญ่" ในเวลาต่อมา 8.
อัพเดตล่าสุด 22 ธ. ค.
ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ (เชลซี) เบลเล็ตติ ช่วย เชลซี ให้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2009/10 ได้สำเร็จ และพาพลพรรค "สิงโตน้ำเงินคราม" เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในปี 2007 มาแล้ว แต่ต้องพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกจากนี้ แบ็คขวาชาวบราซิล มักยิงประตูสุดสวยให้กับ เชลซี อยู่เป็นประจำ อาทิ ในเกมพรีเมียร์ลีก กับ มิดเดิลสโบรห์ เป็นต้น 3. เคราร์ด ปิเก้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ปิเก้ ย้ายจาก บาร์เซโลน่า เข้ามาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2004 เขาลงเล่นให้ "ปีศาจแดง" ไป 23 นัด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือชาวสก็อตแลนด์ อย่างไรก็ตาม กองหลังทีมชาติสเปน ไม่สามารถยึตตัวจริงในทีม แมนฯยูไนเต็ด ได้ เนื่องจาก ริโอ เฟอร์ดินานด์ และเนมันย่า วิดิช เล่นร่วมกันได้อย่างแข็งแกร่ง ปิเก้ จึงย้ายกลับไปที่ บาร์ซ่า ในที่สุด 4. ยาย่า ตูเร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ตูเร่ ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดตลอดกาลของศึกพรีเมียร์ลีก เขาเคยเป็นจุดศูนย์กลางในแดนกลางของ บาร์เซโลน่า ก่อนจะย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2010 และเป็นกำลังหลักของ "เรือใบสีฟ้า" ทันที ดาวเตะชาวไอเวอรี่ โคสต์ ลงเล่นให้กับ แมนฯซิตี้ ไปมากถึง 316 นัด และยิงได้ 82 ประตู รวมถึงมีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง 5.
อเล็กซิส ซานเชซ (อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ฟอร์มล่าสุดของ ซานเชส กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้แฟนบอลลืมไปแล้วว่า เขาเป็นอดีตนักเตะของ บาร์เซโลน่า ปีกทีมชาติชิลี เคยเป็นผู้เล่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดในพรีเมียร์ลีก ระหว่างที่ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล ในปี 2014-2018 ซานเชส เคยได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ อาร์เซน่อล 2 ครั้ง เขายิงไป 80 ประตู จากการลงสนาม 166 นัดให้กับ "ไอ้ปืนใหญ่" 9. หลุยส์ การ์เซีย การเซ็นสัญญากับ การ์เซีย ในราคา 6 ล้านปอนด์ จาก บาร์เซโลน่า ในปี 2004 พิสูจน์แล้วว่า ลิเวอร์คุ้มค่า ปีกชาวสเปน เป็นส่วนสำคัญในการคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในปี 2004/05 ของ "หงส์แดง" จากการทำประตูในเกมกับ ยูเวนตุส ในรอบก่อนรองชนะเลิศฯ จากนั้นยิงประตูกังขาใส่ เชลซี พาทีมเข้าสู่รอบชิงฯ การ์เซีย อาจไม่ใช่นักเตะที่โด่งดังนัก แต่เขาก็กลายเป็นที่รักของแฟนบอล ลิเวอร์พูล ได้อย่างรวดเร็ว และจนถึงทุกวันนี้ 10. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ทุกสายตาจับจ้องที่ อิบราฮิโมวิช เมื่อเขาย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ยู ไนเต็ด เมื่อปี 2016 ในวัย 34 ปี เพื่อดูว่า ดาวยิงสวีเดน สามารถรับมือกับความเร็วของฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม อิบรา พิสูจน์ให้เห็นตั้งแต่ซีซั่นแรกกับ "ปีศาจแดง" ว่าเขาไม่มีปัญหาในการปรับตัว อิบราฮิโมวิช พา แมนฯยูไนเต็ด คว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก ได้สำเร็จในปีแรกของเขากับสโมสร แต่น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง และต้องพักไปนานหลายเดือน จากนั้น อดีตหัวหอก บาร์ซ่า จึงอำลาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในที่สุด Picture –,,,,,,