ศ.
เมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้ หัวหน้าทีมซอกแซกได้มีโอกาสสนทนากับท่านอธิบดีกรม ธนารักษ์ ท่านปัจจุบัน ดร.
กระทรวงการคลัง ( อังกฤษ: Ministry of Finance) เป็นหน่วยงาน ราชการส่วนกลาง ประเภท กระทรวง ของไทย ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงินของแผ่นดิน การ ภาษีอากร การรัษฎากร กิจการเกี่ยวกับ ที่ดินราชพัสดุ กิจการอันกฎหมายบัญญัติให้เป็นการผูกขาดของรัฐ กิจการหารายได้ซึ่งรัฐมีอำนาจดำเนินการได้แต่เพียงผู้เดียวตามกฎหมายและไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวง ทบวง กรมอื่น และกิจการซึ่งจะเป็นสัญญาผูกพันต่อเมื่อรัฐบาลได้ให้อำนาจหรือสัตยาบัน รวมทั้ง การค้ำประกันหนี้ ของส่วนราชการและองค์การรัฐ สถาบันการเงินและรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ. ศ. 2418 เนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตราพระราชบัญญัติกรมพระคลังมหาสมบัติ และจากพระราชบัญญัติฉบับนี้ กรมพระคลังมหาสมบัติมีฐานะเป็นกระทรวงเพราะใช้คำภาษาอังกฤษเพื่อเรียกอธิบดีว่า มินิสเตอร์ ออฟ ฟิแนนซ์
ศ. 2555" ภายในชิดขอบเหรียญโดยรอบประดับด้วยลายไทยสะท้อนถึงศิลปะและความเป็นไทย กรมธนารักษ์จะจัดพิธีเทวาภิเษกในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม เวลา ๑๗. ๐๐ น.
อังคารที่ 27 พฤศจิกายน 2555 เวลา 00. 00 น.
ส. พลายน้อย เขียนไว้ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทยว่า ตามราชประเพณี เมื่อทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษก บรรดาเสนาบดีตำแหน่งต่างๆ ก็จะขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ที่อยู่ ในอารักขาตามหน้าที่ เมื่อครั้งบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 1 พระยา โกศาธิบดี กราบทูลว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบทูลถวายเครื่องพระพัทยากรราชสมบัติทั้งสิบสองพระคลัง แด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระเจ้า อยู่หัว ขอเดชะ" ส. พลายน้อย บอกว่า ในพระราชพงศาวดาร ไม่ได้แจ้งว่า สิบสองพระคลัง มีอะไรบ้าง แต่ในหนังสือต้นราชภาษาและนามต่างๆ ที่หม่อมราโชทัย (ม. ร. ว. โต๊ะ อิศรางกูล) ได้จัดพิมพ์ เมื่อ จ. ศ. 1250 (พ. 2431) มีชื่อดังต่อไปนี้ 1. คลังทอง เป็นที่เก็บพระราชทรัพย์ มีแก้วแหวนเงินทอง เป็นต้น 2. คลังมหาสมบัติ เป็นที่เก็บเงินตรารายได้ ของแผ่นดิน ในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกว่า กรมพระคลังมหาสมบัติ จัดเป็นกรมพระคลังอย่างใหม่ 3. คลังสินค้า น่าจะหมายถึง กรมพระคลังสินค้า ซึ่งมีพระยาโกษาธิบดีเป็นเสนาบดีพระคลัง และว่าที่กรมท่าด้วย 4. คลังวิเศษ (บางแห่งเขียนวิเสท) เป็นคลังเก็บผ้าขาว ในหมายรับสั่งรัชกาลที่ 1 พระราชพิธีโสกันต์ กำหนดไว้ว่า "ให้ชาวพระคลังวิเสท จ่ายผ้าขาวหางเหยี่ยวให้แก่โหร สำหรับปูรองศาล" 5.