เรื่องนี้ สรุปว่าเป็นอย่างไร?
ถ้าพ่อป่วยมากต้องได้รับการผ่าตัดด่วน แต่ทางหัวหน้างานปฎิเสธการลาของเรา เนื่องจากเราโทรมาช้า(แจ้งก่อนประมาณ 6 ชม. ก่อนเข้างาน) อ้างว่าหาคนทำงานแทนไม่ทัน กรณีนี้ถ้าเราไม่ไปทำงาน แล้วเขียนใบลาหลังจากลาไปแล้วจะได้ไหมครับ แล้วถ้าเกิดผมหยุดไป แล้วได้ใบเตือนผมจะทำอะไรได้ไหมครับ ผมมีสิทธิฟ้องศาลแรงงานในกรณีนายจ้าง จ้างงานไม่เป็นธรรมได้ไหมครับ ช่วยอธิบายหน่อยครับ ขอบคุณครับ และอีกอย่างนายจ้างมีสิทธิห้ามลาในกรณีได้ด้วยเหรอครับ และจำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าด้วยเหรอครับ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แสดงความคิดเห็น
ตามมาตรา 32 ยังบอกต่อไปอีกว่า การลาป่วยตั้งแต่ 3 วันทำงานขึ้นไป นายจ้าง "อาจ" ให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้น 1 หรือของสถานพยาบาลของรัฐบาล แต่ถ้ากรณีลูกจ้างไม่อาจแสดงใบรับรองแพทย์ได้ ก็ให้ลูกจ้างชี้แจงให้นายจ้างทราบ ซึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า นายจ้างจะไปบังคับให้เขาไปหาหมอเพื่อไปเอาใบรับรองแพทย์มาให้ดู ก็ไม่ได้นะครับ 4. จากข้อ 3 แทนที่ HR หรือหัวหน้างาน จะคิดแบบ "ซี้ปังเท้า" (ไปหาคำแปลเอาเองนะครับ 555) คิดแต่จะทำตามระเบียบ โดยไม่รู้จักคิดหาเหตุผลตามความเป็นจริง ลองมาหาทางพิสูจน์ว่า พนักงาน "ป่วยจริง" (ตามข้อ 2) หรือไม่ จะดีกว่าไหมครับ โดยทำดังนี้ 4. 1 กรณีพนักงานไปหาหมอ เขาจะต้องได้ใบรับรองแพทย์อยู่แล้ว ซึ่งใบรับรองแพทย์จะมี 2 แบบ คือ 4. 1. 1 ในใบรับรองแพทย์เขียนไว้ว่า "ได้มาทำการตรวจรักษาจริง" กรณีนี้มักจะเป็นการไปตรวจรักษาตามที่หมอนัด ไป follow up โรคประจำตัว เช่น หมอนัดตรวจเช้า พนักงานก็มาทำงานตอนสาย ๆ หรือบ่าย ๆ ได้ หรือหมอนัดบ่าย ก็มาทำงานตอนเช้าก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอนุญาตให้ลาป่วยทั้งวัน 4. 2 ในใบรับรองแพทย์เขียนไว้ว่า "เห็นสมควรหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลา…วัน" อันนี้หัวหน้าก็ต้องอนุญาตให้ลาป่วยตามความเห็นของแพทย์ครับ 4.
"คนไทยรั้งอันดับ 7 ของโลก ว่าด้วยประเทศที่มีคนลาพักร้อนน้อยที่สุด – ผลสำรวจจาก 18th Annual Vacation Deprivation® Study" ก้มหน้าก้มตาทำงานมาทั้งปี พอจะลางานสักทีก็รู้สึกแปลก ๆ กลัวโดนเพื่อนมองไม่ดี ลาไปไหน? ลายาวขนาดนี้เลยเหรอ? สารพัดคำถามทั้งจากคนรอบข้างหรือบางทีก็ถามตัวเองนี่แหละ เดี๋ยวก่อน!
2 กรณีพนักงานไม่ได้ไปหาหมอ หัวหน้าก็ไปเยี่ยมลูกน้องที่บ้าน ที่หอพัก สิครับ (ควรมีพยานไปด้วยว่า เราไม่ได้ปรักปรำ) และควรไปเยี่ยมโดยไม่ต้องบอกให้พนักงานรู้ล่วงหน้า ถ้าไปเยี่ยมแล้วเห็นว่าป่วยจริง นอนซมอยู่ ก็อนุญาตให้ลาป่วย ถ้าไม่ป่วยจริง เช่น ไปที่หอพักก็ไม่อยู่ ไม่รู้ไปไหน หรือไปเจอพนักงานที่อ้างว่าป่วย แต่ไปนั่งชิล ๆ ซดเบียร์อยู่ใต้ถุนหอพัก หัวหน้าก็ต้องไม่อนุญาต และถือว่าขาดงาน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และออกหนังสือตักเตือนตามข้อ 2 ดังนั้น หัวหน้าจึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันลูกน้องด้วยว่าใครป่วยจริง หรือป่วยปลอม เพื่อเป็นการปรามลูกน้องคนอื่น ๆ ที่กำลังจะเอาอย่างพวกที่ป่วยปลอม 5. ทั้งหมดที่บอกมานี้ ผมไม่ได้ให้ท่านที่เป็นหัวหน้าเป็นคนใจร้าย ไม่มีมนุษยธรรมนะครับ แต่อยากให้ดูตามข้อเท็จจริง ซึ่งคนที่เป็นหัวหน้าควรจะต้องเท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของลูกน้องเกเร (บางคน…ถ้ามี) ถ้าลูกน้องคนไหนที่ทำงานดี ไม่มีปัญหาแล้วจะเจ็บไข้ไม่สบายลาป่วยน่ะ คงไม่มีหัวหน้าใจร้ายเคี่ยวเข็ญให้ลากสังขารมาทำงานให้ได้ (เอ๊ะ…หรือจะมี) แต่ถ้าลูกน้องเกเรที่เป็นเหล่ามือวางอันดับต้น ๆ ประเภทนักป่วยมืออาชีพทั้งหลาย หัวหน้าจำเป็นต้องรู้ทัน และหาทางพิสูจน์ว่า "ป่วยจริง" หรือเปล่า 6.
ไม่อนุญาตและไม่อนุมัติ ให้ลาพักร้อน หัวหน้าสามารถทำได้ด้วยเหรอ? แล้วเป็นแบบนี้ เราจะมีสิทธิ์ลาพักร้อนไปทำไม ในเมื่อขอลาพักร้อนไปหัวหน้าก็ไม่อนุมัติอยู่ดี เรื่องของลาพักร้อน มีหลากหลายกรณีที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งในส่วนของพนักงาน และ ในส่วนของนายจ้าง หรือ บริษัท สำหรับในเรื่องประเด็นของการลาพักร้อน เพื่อให้เข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้น เราลองมาดูตัวอย่างเรื่องราวของน้องท่านนึง ที่ได้สอบถามผ่านทาง Inbox ของแฟนเพจ มนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่ กัน หนูอยากทราบว่าทำไมหนูใช้สิทธิ์ลาพักร้อนไม่ได้? ทั้งๆ กฎของบริษัทก็ระบุเอาไว้ว่าพนักงานในตำแหน่งนี้มีสิทธิ์ลาพักร้อน ได้ ไม่เกิน 15 วัน ต่อปี หนูก็เป็นพนักงานบริษัทคนนึงที่ต้องการจะใช้สิทธิ์ในการลาพักร้อน และต้องการลาพักร้อน 1 อาทิตย์ เพื่อไปทำธุระ และพาครอบครัวไปเที่ยว หลังจากทำเรื่องขออนุญาติหัวหน้าไป ปรากฏว่าหัวหน้าไม่อนุมัติ แบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย จะลาพักร้อนบ้าง ก็ไม่อนุมัติ และ หากไม่ลาพักร้อนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็จะโดนตัดสิทธิ์ลาพักร้อนไปซะอีก แล้วแบบเราจะมีสิทธิ์ให้พนักงานลาพักร้อนไปเพื่ออะไร ไม่อนุญาตและไม่อนุมัติ ให้ลาพักร้อน หัวหน้าสามารถทำได้ด้วยเหรอ?
ถูกเลิกจ้าง และ ให้ออกจากงานแบบกระทันหัน ต้องทำอย่างไรดี? เรื่องเงินชดเชย เรื่องหนังสือรับรองการทำงาน เรื่องสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน (กองทุนประกันสังคม)
คอลัมน์ HR Corner โดย ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ มีคนถามมาว่า "ผมปวดหัวเวียนหัวพอโทร. มาขอลาป่วยกับหัวหน้า หัวหน้าก็ให้โทร. ไปลาป่วยกับ HR แต่ HR บอกว่า "ให้ไปหาหมอแล้วเอาใบรับรองแพทย์มายืนยัน แต่ผู้ถามบอกว่าเขาลาป่วยแค่วันเดียวไม่ได้ไปหาหมอจะไปเอาใบรับรองแพทย์มาจากไหน แต่ HR ยืนยันให้ไปเอาใบรับรองแพทย์มาให้" ผมจึงอยากจะทำความเข้าใจในเรื่องการลาป่วยนี่แบบตรงไปตรงมา ดังนี้ครับ 1. HR ไม่มีหน้าที่ไปอนุญาตให้พนักงานฝ่ายอื่นลาป่วยนะครับ เพราะพนักงานฝ่ายอื่นไม่ใช่ลูกน้องของฝ่าย HR สักหน่อย ถ้าอยากจะให้พนักงานทุกฝ่ายมาลาป่วยกับฝ่าย HR ก็ควรจะทำผังองค์กรเสียใหม่ โดยให้พนักงานทุกฝ่ายมาเป็นลูกน้องขึ้นตรงกับฝ่าย HR ดีไหมครับ น่าแปลกใจที่หลายบริษัทยังมีกฎเกณฑ์แปลก ๆ ทำนองนี้อยู่ว่า เรื่องเหล่านี้ต้องไปให้ HR เป็นคนอนุญาต ทั้ง ๆ ที่เป็นบทบาทหน้าที่ของหัวหน้างานโดยตรงของหัวหน้างาน ในหน่วยงานนั้น ๆ ที่จะต้องเป็นคนพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ลูกน้องของตัวเองลาป่วยหรือไม่ ไม่ควรโยนหน้าที่นี้ไปให้ HR นะครับ 2.
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถกเถียงกันมานานว่า คนเราเวลาป่วยก็ไม่ได้ไปหาหมอเสมอไป บางทีก็กินยา นอนพักอยู่บ้านเฉย ๆ พอหายก็ไปทำงานตามปกติ แต่โดนทวงใบรับรองแพทย์ พอไม่มีให้ก็เป็นเรื่องเลย การลาป่วยนั้น กฎหมายกำหนดให้สามารถลาป่วย 'ได้เท่าที่ป่วยจริง' ซึ่งประเด็นนี้ถูกพูดถึงในพ. ร. บ. คุ้มครองแรงงานไว้เช่นกันว่า หากลูกจ้างลาป่วยตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป นายจ้าง 'อาจ' ให้แสดงใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลได้ แต่ 'จะบังคับ' ไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นความผิด หากลูกจ้างไม่ยื่น ก็ถือว่าไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ตรงนี้อาจจะเป็นช่องโหว่ให้บางคนฉกฉวยโอกาสได้ ก็ต้องระวังทุกฝ่าย แต่เราเชื่อว่า โกหกใครก็โกหกได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้แน่นอน ลากิจ พ.
ส่วนหัวหน้าสายโลกสวยประเภทเป็นยูนิคอร์นใจดีเดินอยู่ที่ทุ่งลาเวนเดอร์ ไม่ว่าลูกน้องคนไหนโทร.